อาหารวัยทารก

 

pic_no_636_food_07.jpg

 

 

 

 

 

วัยทารก
ทารกแรกเกิดถึง 6 เดือน ยังไม่ต้องการอาหารใดๆ นอกจากนมแม่หรือนมผงดัดแปลงสำหรับทารก ทารกบางคนอาจแพ้นมวัวที่อยู่ในนมผง ดังนั้นหากสงสัยว่าทารกแพ้นมวัวให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกเพราะนมแม่ประกอบด้วยสารอาหารต่างๆ ที่ทารกต้องการอย่างครบถ้วน แต่เมื่อทารกอายุครบ 6 เดือน สารอาหารในนมแม่อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ดังนั้นจึงควรเริ่มให้อาหารอื่นๆ นอกจากการให้นมแม่ ซึ่งเรียกว่าเข้าช่วงการหย่านม (Weaning) นั่นเอง การเริ่มหย่านมนั้นขึ้นกับพัฒนาการของเด็ก ซึ่งมีความแตกต่างกันในแต่ละคน โดยอาจเริ่มให้อาหารที่มีลักษณะของความเป็นเนื้ออาหารเพื่อกระตุ้นให้ทารก รู้จักการบดเคี้ยว แต่ห้ามเติมเกลือลงในอาหารเนื่องจากไตของทารกยังไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็ม ที่ และเช่นเดียวกันห้ามทารกดื่มน้ำผึ้งจนกว่าจะอายุครบหนึ่งขวบ เนื่องจากในน้ำผึ้งอาจมีแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตรายต่อทารกได้

อย่างไรก็ตามทารกยังคงต้องการนมแม่หรือนมผง ไปพร้อมกับการให้อาหารอื่นๆ จนกว่าอายุครบ 1 ขวบ ปริมาณที่ให้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารที่ทารกสามารถรับประทานได้ อย่าพยามยามให้ทารกรับประทานอาหารมากเกินความต้องการ

การที่ทารก และเด็กวัยก่อนเรียนจะมีภาวะโภชนาการที่สมบูรณ์ได้นั้นย่อมขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการดูแลด้านโภชนาการและสุขภาพอนามัย ซึ่งหมายถึงทารกจะต้องได้อาหารที่เหมาะสม และเพียงพอต่อการเจริญเติบโตรวมถึงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ตลอดจนเฝ้าระวังสุขภาพอนามัยอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ

เพราะวัยทารก เป็นระยะแรกของชีวิตที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วกว่าทุกกลุ่มอายุ ทั้งทางด้านร่างกายและสมอง โดยทั่วไปน้ำหนักเด็กอายุ 5 เดือน เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของน้ำหนักแรกคลอด หรือเพิ่มประมาณ 3 กิโลกรัม และจะเพิ่มเป็น 3 เท่าเมื่ออายุครบ 1 ปี หรือประมาณ 6 กิโลกรัม

เด็กทารกที่อายุต่ำกว่า 4 เดือน ควรได้รับน้ำนมแม่เพียงอย่างเดียว ซึ่งธรรมชาติได้ปรุงแต่งให้สะอาด เหมาะสม มีคุณค่าและเพียงพอสำหรับเด็กทุกคน ไม่มีความจำเป็นต้องให้อาหารเสริมอย่างอื่นในระยะนี้ เพราะนมแม่มีสารอาหารครบถ้วนทั้งโปรตีน วิตามิน ไขมัน แร่ธาตุต่างๆ

นอกจากนี้ในน้ำนมแม่ ยังมี โคลอสตรัม หรือหัวน้ำนมในช่วงแรกหลังคลอด ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้ทารกได้อย่างดีและยังช่วยระบาย “ขี้เทา” ซึ่งค้างอยู่ในลำไส้ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้อง มีฮอร์โมนและสารกระตุ้นการเติบโตของสมองและอวัยวะอื่นๆ ทำให้ร่างกายและสมองของลูกพัฒนาอย่างสมบูรณ์ขึ้น และมีผลต่อการพัฒนาระดับสติปัญญา

การให้อาหารอื่นนอกจากนมแม่ก่อนลูกอายุได้ 4 เดือนนั้น จะมีผลเสียต่อทารกมากมาย เช่น ทำให้ทารกท้องอืด เนื่องจากกระเพาะ ยังไม่พร้อม ที่จะรับอาหารอื่น ที่สำคัญทำให้ทารกอิ่มจนกินนมแม่ได้น้อยกว่าปกติ เป็นผลทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารน้อยกว่าที่ควร

ในระยะที่ลูกมีอายุตั้งแต่ 3-4 เดือนขึ้นไป การทำงานของระบบทางเดินอาหารรวมทั้งน้ำย่อยต่างๆ จะพัฒนามากขึ้นตามอายุเพื่อให้สามารถย่อยอาหาร ประเภทคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน และสามารถนำสารอาหารเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ในร่างกายให้ได้มากที่สุด

อาหารของทารกวัย 4 เดือนขึ้นไป คือนมแม่ ข้าวบดไข่แดงต้มสุก ผสมน้ำแกงจืด วันละ 1 ครั้ง แล้วกินนมแม่ตามอีกจนอิ่ม

อาหารของทารกวัย 5 เดือน คือนมแม่ เพิ่มข้าวบดเนื้อปลาสุกสลับกับไข่แดงต้มสุก ผสมน้ำแกงจืด วันละ 1 ครั้ง แล้วกินนมแม่ตามจนอิ่ม

อายุครบ 6 เดือน กินนมแม่ ข้าวบดเนื้อปลาสุกหรือไข่แดงต้มสุก ผสมน้ำแกงจืด โดยเพิ่มผักสุกบดด้วยทุกครั้งเป็นอาหารแทนนมแม่ 1 มื้อ มีผลไม้สุกนิ่มๆ เช่น มะละกอสุก เป็นอาหารว่าง 1 มื้อ

เมื่ออายุครบ 7 เดือน นอกจากกินนมแม่แล้ว ต้องเพิ่มเนื้อสัตว์สุกบดชนิดอื่นๆ เช่น ไก่ หมู และตับสัตว์สุกบด หรือทั้งไข่แดงและไข่ขาวต้มสุกบดในข้าว และผักบดสลับกับอาหารที่เคยให้เมื่ออายุครบ 6 เดือน มีผลไม้ เป็นอาหารว่าง 1 มื้อ

อายุ 8 – 9 เดือน ก็กินอาหารเช่นเดียวกับเด็กอายุครบ 7 เดือน แต่บดให้หยาบและเพิ่มปริมาณมากขึ้นเป็นอาหารหลักแทนนมแม่ได้ 2 มื้อ มีผลไม้เป็นอาหารว่าง 1 มื้อ

อายุครบ 10 – 12 เดือน กินอาหารเช่นเดียวกับเด็กอายุ 8 – 9 เดือน แต่เพิ่มปริมาณให้มากขึ้นเป็นอาหารหลักแทนนมแม่ได้ 3 มื้อ มีผลไม้เป็นอาหารว่าง 1 มื้อ

ในระยะที่ทารกได้รับอาหารเพิ่มเติมตามวัย และค่อยๆกินอาหารทดแทนนมแม่ไปทีละมื้อนั้นมีความสำคัญมาก เพราะลูกอาจจะยังไม่คุ้นกับอาหารใหม่จึงได้เริ่มให้ตั้งแต่อายุครบ 4 เดือนขึ้นไป เมื่ออายุ 6 เดือนจะได้กินแทนนมแม่ได้ 1 มื้อ เต็มที่ ในระยะ 4-5 เดือน อาจกินไม่ได้เต็มที่ จึงได้แนะนำให้กินนมแม่ต่อจนอิ่ม ช่วงระยะ 6 เดือน – 1 ปี สมัยก่อนเรียกว่าเป็นระยะหย่านม ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าให้อดนมแต่ความจริงแล้ว เป็นแต่เพียงเปลี่ยนให้กินนมเป็นอาหารเสริมแทนที่จะเป็นอาหารหลัก แม่จึงควรเอาใจใส่ในการให้อาหารทารกตามวัยในระยะนี้ให้มาก

9511111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111111